มีมีใครบ้างที่ไม่เคยหยุดถามตัวเองเลยในช่วงชีวิตท ี่ผ่านมาว่า ฉันคือใคร ? ฉันมาจากไหน ? ฉันต้องไปไหน ? บนปั้ ลายชีวิตของ ฉันจะเป็ นอย่างไร ? อะไรคือเป้ าหมายของการมีชีวิตอยู่นี้ ? และ ทำไมทุกสิ่งที่มีลมหายใจในโลกน ี้สุดท้ายแล้วต้องตายและสูญ สลายไป ?
ชาวมุสลิมและผู้ที่นับถือศาสนา แห่งฟากฟ้ าต่างศรัทธาว่าการใช้ชีวิต ของคนคนหน ึ่งโดยปราศจากการ ศรัทธาต่อการมีอยู่จริงของผู้ทรงสร้าง ท ี่ ทรงยุติธรรม รวมถึงการศรัทธาต่อ ชวิีตในอกโี ลกหนงท ึ่ จะ ี่ มีการตอบแทน คุณงามความดแก่ผู้ท ี ปี่ ระพฤติด แี ละ จะลงโทษผู้ ที่ประพฤติชั่ มันย่อม สูญเปล่าและไร้ความหมาย มันคือความทุกข์ทรมาน และความเจ็บปวดทไี่ มมี่ อะไรชดเชย และมันคือการ ดิน้รนทไี่ มมี่ ค่าตอบแทนใดๆ

และเป็นไปไม่ได้ทจะเ ี่ ข้าใจความหลากหลายของ การมีชวิีตและเหตุผลเบองื้ หลังของความทุกข์ยากใน การใช้ชวิีตรวมถึงสิงผิด ่ ถูก และความทุกข์ยากลำบาก นอกจากเมอเื่ ราได้ศรัทธาต่อพระผู้อภิบาล ผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงบริหารจัดการ ผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงยุตธรรม ิ ซึ่งทำให้บันป้ ลายของแต่ละชีวิตนันพ้ บกับผล ตอบแทนตามทเ ี่ ขาได้กระทำไว้ในก่อนหน้านี้

สภาพเช่นนเท่านั ี้ นท้ จะท ี่ ำให้การศรัทธา อันลึก ซึ้งต่อคุณค่าและแนวคิดทัง้หมดท ี่ เราได้เรียกร้ อง อาทิ ความยุตธรรม ิ ความรัก ความเอาใจใส่ ความ จริงใจ ความอดทน และความเมตตา กลายเป็นสิง่ ทสอดค ี่ ล้องกับชวิีตของเราจริงๆ ทำให้ความท้าทาย ในชวิีตมีความหมาย ความสำเร็จมีรสชาติ และความ อดทนของเราก็มีความหอมหวานขึ้นมาได

เราพบว่าอัลกุรอานท ี่เป็ นคัมภีร์ของชาวมุสลิม ได้บ่งชี้ถึงเรื่องนัน ้ ซึ่งอัลลอฮฺได้สาธยายให้เราถึง กลมุ่ คนที่มีสติปัญญาและมีความคิดใคร่ครวญไว้ ว่า “และพวกเขาพินิจพิจารณากันในการสร้าง
รรดาชันฟ้ าแ ้ ละแผ่นดิน (โดยกล่าวว่า) โอ้พระเจ้า ของพวกข้าพระองค์ พระองค์มิได้ทรงสร้างสิงน่ ี้มา โดยเปล่าประโยชน์ มหาบริสุทธิ์ ยิ่งพระองค์ท่าน” (อัลกุรอานบทอาล อิมรอน โองการท ี่ 191)

เป็ นไปไม่ได้ที่ จะเข้าใจความแตกต่างของการมี ชวิีตและเหตุผลลึกๆ ของความทุกข์ยากลำบาก ในการใช้ชีวิต รวมถึงจะเข้าใจสิ่งถูกผิดและ ความทุกข์ทรมานนอกจากเมื่อเราได้ศรัทธา ต่อพระผู้อภิบาล ผู้ทรงสร้างสรรค์ ผู้ทรงบริหาร จัดการ ผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงยุตธรรม